สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประณามกฎหมายที่ “ไม่ยุติธรรม” ที่กำหนดให้คนรักร่วมเพศเป็นอาชญากรในการให้สัมภาษณ์กับ The Associated Press ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ โดยเสริมว่าคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกควรดำเนินการมากกว่านี้เพื่อยุติกฎหมายดังกล่าว และพระสังฆราชควรต้อนรับคน LGBTQ เข้ามาในคริสตจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีกฎหมายดังกล่าว
“การเป็นรักร่วมเพศไม่ใช่อาชญากรรม” ฟรานซิสกล่าว สัมภาษณ์และเสริมว่าพระเจ้าทรงรักลูกๆ ทุกคนเหมือนที่พวกเขาเป็น นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้บาทหลวงที่สนับสนุนกฎหมายที่ลงโทษหรือเลือกปฏิบัติต่อชุมชน LGBTQ ซึ่งมีอยู่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ให้ผ่าน “กระบวนการเปลี่ยนใจเลื่อมใส” และใช้ “ความอ่อนโยน” แทน เขากล่าว “ตามที่พระเจ้าทรงมีต่อ พวกเราแต่ละคน”
ฟรานซิสอ้างถึงคำสอนของคริสตจักรซึ่งสอนว่าชาว LGBTQ ไม่ควรถูกกีดกัน แต่ควรต้อนรับแทน แต่เขายังบอกชัดเจนว่าเขาเชื่อว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศซึ่งคริสตจักรคาทอลิกถือว่า “ไร้ระเบียบภายใน” เป็นบาป
“มันไม่ใช่อาชญากรรม” ฟรานซิสพูดถึงการรักร่วมเพศระหว่างการสัมภาษณ์ 75 นาทีที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ซานตา มาร์ตา โรงแรมวาติกันที่เขาเรียกว่าบ้าน “ใช่ แต่มันเป็นบาป ก็ได้ แต่ก่อนอื่นมาแยกแยะระหว่างบาปกับอาชญากรรมกันก่อน” พระองค์ตรัสว่าการขาด “กุศลต่อกัน” ก็เป็นบาปเช่นกัน
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเข้าถึงชุมชน LGBTQ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักแห่งพระสันตปาปาของพระองค์ เพียงไม่กี่เดือนหลังจากการเลือกตั้งในปี 2556 เขากล่าวอย่างมีชื่อเสียงว่า “ฉันจะตัดสินใคร” เมื่อถูกถามระหว่างที่พระสันตปาปาเดินทางจากบราซิลเกี่ยวกับนักบวชที่อาจเป็นเกย์ ในสารคดีปี 2020 ดูเหมือนว่าเขาจะสนับสนุนสหภาพแรงงานเพศเดียวกัน วาติกันชี้แจงในภายหลังว่าสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเชื่อว่าคู่รักเกย์สมควรได้รับการคุ้มครองทางแพ่ง รวมถึงสิทธิทางกฎหมายและสวัสดิการด้านสุขภาพ แต่ความคิดเห็นของเขาไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในหลักคำสอนของโบสถ์
ในปี 2021 ชุมชน LGBTQ จำนวนมากได้มอบหมายให้ฟรานซิสรับคำตัดสินที่ออกโดย Congregation for the Doctrine of the Faith ที่ห้ามนักบวชไม่ให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกัน โดยเรียกพรดังกล่าวว่า “ไม่ถูกต้อง” คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบคำถามจากศิษยาภิบาลและวัดบางแห่งที่ต้องการต้อนรับและรวมคู่รักเกย์มากขึ้น